จุดเริ่มต้นของการเล่นกีฬาทางน้ำจะมาจากการหัดว่ายน้ำ ซึ่งกีฬาชนิดนี้ถือว่าดีและมีประโยชน์มาก ๆ การว่ายน้ำทุกวันนี้เราจะเห็นว่าเป็นหนึ่งในหลักสูตรการเรียนการสอนของโรงเรียน เพราะนอกจากจะเป็นกีฬาที่เล่นเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว การว่ายน้ำถือว่าเป็นทักษะอย่างหนึ่งของการเอาชีวิตรอด ซึ่งจากสถิติที่ผ่านมาเรามักจะเห็นเด็กที่เสียชีวิตจากการจมน้ำบ่อยครั้ง การเริ่มเรียนว่าน้ำตั้งแต่เล็ก ๆ ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีมาก มาในส่วนของการแข่งขันจะเห็นว่า การแข่งขันว่ายน้ำทั่วไป จะเน้นเรื่องการทำเวลา แต่จะมีการแข่งว่ายน้ำที่เรียกว่าไม่ธรรมดาอีกหนึ่งการแข่งขัน คือ การว่ายน้ำในไตรกีฬา ที่เรียกว่าโหดมาก วันนี้เราจะพาคุณไปดูความแตกต่างของการว่ายน้ำในกีฬาทั้งสองแบบกัน
ว่ายน้ำทั่วไป
เราจะเห็นการแข่งขันบ่อยมากตามรายกรต่าง ๆ และพวกรายการใหญ่ ๆ เช่น ซีเกม เอเชียนเกม และโอลิมปิกเกม การแข่งขันว่ายน้ำจะแบ่งออกเป็น 4 ท่า คือ ท่าผีเสื้อ ท่าฟรีสไตล์ ท่ากบ และท่ากรรเชียง โดยจะมีระยะทางคือ 50 เมตร 100 เมตร และ 200 เมตร เป็นต้น สิ่งที่เน้นในการแข่งขันคือเรื่องของเวลา ใครทำเวลาได้น้อยที่สุดคนนั้นจะเป็นผู้ชนะ ดังนั้นนักกีฬาว่ายน้ำจะต้องเน้นฝึกสปินขา การจ้วงแขน เพื่อให้เกิดความเร็วมากที่สุด สระว่ายน้ำที่ใช้จะเป็นสระมาตรฐาน คือมีความยาว 50 เมตร และมีความลึกที่ 1.2 เมตร เป็นอย่างต่ำ สระว่ายน้ำจะถูกแบ่งออกเป็น 8 ช่อง โดยมีลู่กันเอาไว้ เมื่อเสียงนกหวีดดัง นักกีฬาจะกระโดดจากแท่น และว่ายแข่งกัน
ว่ายน้ำไตรกีฬา
หากเคยเห็นการว่ายน้ำทั่วไปมาแล้ว ลองมาดูการว่ายน้ำของไตรกีฬากันบ้าง การแข่งขันจะแบ่งออกเป็น 3 ช่วง จะมีการว่ายน้ำ การวิ่ง และการปั่นจักรยาน แต่โดยส่วนใหญ่การว่ายน้ำจะถูกจัดให้เป็นการแข่งขันแรกก่อนที่จะไปแข่งกีฬาอื่น ๆ การว่ายน้ำของไตรกีฬาจะมีระยะทางที่ค่อนข้างยาว เริ่มต้นที่ 750 เมตร 1.5 กิโลเมตร 1.9 กิโลเมตร และ 3.8 กิโลเมตร ดังนั้นนักกีฬาที่จะมาลงแข็งได้ สิ่งแรกที่ต้องมีคือความแข็งแรของร่างกาย ต่อมาคือความอึด เพราะระยะที่ใช้ในการแข่งขันถือว่ายาวกว่าการว่ายน้ำทั่วไป หากว่ายน้ำไม่อึดพอ อาจจะเกิดอันตรายได้ ต่อมาคือเรื่องของสระ การแข่งไตรกีฬาจะใช้ สระว่ายน้ำ สระน้ำธรรมชาติ หรือทะเล ซึ่งสิ่งที่นักกีฬาจะต้องเจอคืออุปสรรคระหว่างที่ว่ายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นสีของน้ำ คลื่น ลมต่าง ๆ เป็นต้น
ความเหมือนและแตกต่างของการว่ายน้ำ 2 แบบ
จะเห็นได้ว่าการแข่งว่ายน้ำทั่วไปจะดูสบาย และมีความตื่นเต้นที่ต่างจากการแข่งในไตรกีฬา ตั้งแต่เรื่องสภาพแวดล้อม เวลา และระยะทาง ส่วนไตรกีฬานั้น แน่นอนว่าส่วนหนึ่งจะมีการจับเวลาการแข่งขัน แต่สิ่งที่เน้นมากกว่าคือเน้นเรื่องความอึด นักกีฬาที่จะมาลงแข่งขันได้ อย่างน้อยต้องมีการฝึกร่างกายมา 3-4 เดือน เพื่อให้สามารถแข่งขันจนจบได้